มีการกล่าวว่า “กีฬาขี่ม้าโปโล” ส่วนใหญ่จะได้รับความนิยมในหมู่ชนชั้นสูง ถ้าย้อนถึงตำนานของ การแข่งขันกีฬาขี่ม้าโปโล ว่ากันว่ากีฬาชนิดนี้เริ่มต้นโดยการแข่งขันระหว่างชาวเปอร์เซียกับชาวเติร์กโคมัน ราว 600 ปีก่อนคริสตกาล แต่ผู้ที่ได้รับการบันทึกว่าเป็นผู้นำกีฬาชนิดนี้ไปเผยแพร่ คือชาวมองโกลในยุคของ เจงกิสข่าน จากนั้นจึงค่อยๆ พัฒนาเรื่อยมากระทั่งกลายเป็นกีฬาบนหลังม้า แพร่หลายไปยังแถบเปอร์เซียและดินแดนฝั่งตะวันออก โดยเฉพาะในอินเดียที่มีการเล่นกีฬาชนิดนี้อย่างแพร่หลาย จนชาวอังกฤษซี่งเป็นเจ้าของอาณานิคมมาพบเข้าจึงได้นำกลับไปเล่น กระทั่งมีการก่อตั้งเป็นสโมสรขึ้นและถูกเผยแพร่ไปยังทั่วโลก
สำหรับในประเทศไทย กีฬาขี่ม้าโปโลเริ่มเข้ามาในสมัยรัชกาลที่6 แต่เพราะในยุคแรกจำกัดเฉพาะ ชนชั้นสูงและชาวต่างชาติ จึงทำให้กีฬาชนิดนี้ค่อยๆ เลือนหายไป และกีฬาชนิดนี้กลับมาเป็นที่รู้จักอีกครั้ง ด้วยการผลักดันของ คุณวิชัย ศรีวัฒนประภา อดีตประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ และมีการจัดตั้งเป็นสมาคมฯ ขึ้นมา โดยได้รับอนุญาตจากการกีฬาแห่งประเทศไทย ให้จัดตั้งเป็น “สมาคมขี่ม้าโปโลแห่งประเทศไทย” เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2547 และสมาคมฯ ได้ผลักดันให้มีการบรรจุกีฬาขี่ม้าโปโลเข้าในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ เมื่อครั้งที่ 24 จังหวัดนครราชสีมา ในปี 2550 ซึ่งปัจจุบัน มีคุณกนกศักดิ์ ปิ่นแสง ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาขี่ม้าโปโลแห่งประเทศไทย ได้สานต่อเจตนารมณ์ผู้ก่อตั้ง ในการที่จะเป็นศูนย์กลางการแข่งขันในทวีปเอเชีย โดยได้จัดการแข่งขันขึ้นมากมาย ที่ผ่านมาล่าสุด คือการแข่งขันขี่ม้าโปโล All Asia Cup 2020 ซึ่งมี 6 ประเทศในเอเชีย ได้แก่ บรูไน, จีน, อินโดนีเซีย, เกาหลีใต้, ฟิลิปปินส์ และไทย เข้าร่วมแข่งขัน
และประเทศไทย กำลังมีการแข่งขันกีฬาโปโล ครั้งสำคัญอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ เป็นการรวมตัวเฉพาะนักกีฬาขี่ม้าโปโลหญิง ในรายการ “คิง เพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล เลดี้ส์ โปโล ทัวร์นาเมนต์ 2020” เรียกว่า เป็นการ รวมพลังของนักกีฬาขี่ม้าโปโลหญิงที่ “แสดงศักยภาพ” อีกด้านของ ”ผู้หญิง”ต้อนรับวันสตรีสากล ที่กำลังจะมาถึงเลยทีเดียว
โดย คุณพลอย ปิ่นแสง ในฐานะนักกีฬาขี่ม้าโปโลหญิงหนึ่งเดียวในทีมชาติไทย ผู้หลงใหลกีฬาขี่ม้าโปโล เริ่มต้นจากความชอบในการขี่ม้ามาตั้งแต่เด็ก และยังได้เข้าร่วมการแข่งขันขี่ม้าโปโลในรายการต่างๆทั้งในไทยและต่างประเทศ โดยเป็นหนึ่งในนักกีฬาขี่ม้าโปโลทีมชาติไทย ที่สามารถคว้าเหรียญเงินได้จากการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 29 ณ ประเทศมาเลเซีย และปัจจุบันยังดำรงตำแหน่ง กรรมการสมาคมกีฬาขี่ม้าโปโลแห่งประเทศไทย กล่าวถึงกีฬาขี่ม้า “โปโล” ว่า “ โปโล เป็นหนึ่งในกีฬาไม่กี่ชนิดที่ผู้ชายและผู้หญิงสามารถเล่นด้วยกันได้ เพราะมี Handicap System ที่เป็นตัววัดความเก่งของแต่ละคนเหมือนกับกีฬากอล์ฟ เริ่มตั้งแต่เลเวลแรกสุดคือ -2 ถึงเลเวล 10 ซึ่งจะเป็นคนที่เก่งที่สุดในโลกและมีอยู่แค่ 9 คนเท่านั้น การวัดแฮนดิแคปไม่ใช่แค่เรื่องตีไกลหรือแรงที่ใช้ตีเท่านั้น แต่มันมีทักษะอย่างอื่นที่เกี่ยวกันด้วย ทั้งกลยุทธ์การเล่น ทีมเวิร์ค การขี่ม้า การควบคุมม้า หรือแม้แต่การดูแลม้า การที่ผู้ชายและผู้หญิงมีเลเวลเดียวกันแสดงว่าความสามารถพอกันจริงๆ ทำให้ไม่ว่าใครก็สามารถเล่นด้วยกันได้ ไม่เกี่ยวกันเลยว่าผู้ชายตัวใหญ่จะตีได้ไกลกว่าผู้หญิงตัวเล็ก แต่มันจะเกี่ยวกับวงสวิงของร่างกายหรืออะไรแบบนั้นมากกว่า โปโลเนี่ยถ้ายิ่งตีแรงจะยิ่งไม่ไปเหมือนกับกอล์ฟที่ต้องใช้วงสวิงที่เป็นธรรมชาติ จริงๆ แล้วผู้หญิงจะได้เปรียบกว่าด้วยซ้ำตรงที่ตัวเล็กแล้วคล่องแคล่ว สามารถเลี้ยงม้าให้พลิ้วได้ง่ายกว่า อีกอย่างโปโลไม่ได้อยู่แค่ที่การตีลูกอย่างเดียว แต่มันต้องมีการเบียด การรุก การขี่ม้าเร็วไปดัก”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น