ตลาดหลักทรัพย์ฯ และ กฟผ. เผยผลการศึกษาไทยพร้อมพัฒนาตลาดซื้อขายไฟฟ้าในระดับขายส่ง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการด้านไฟฟ้า และขีดความสามารถการแข่งขันในธุรกิจอุตสาหกรรมไฟฟ้า เดินหน้าสู่การเป็นศูนย์กลางซื้อขายพลังงานไฟฟ้าของอาเซียนในอนาคต
นายพัฒนา แสงศรีโรจน์ รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ กฟผ. เปิดเผยถึงผลการศึกษาการพัฒนาความพร้อมเพื่อรองรับตลาดซื้อขายไฟฟ้าในระดับขายส่ง (Wholesale Electricity Market) ที่มีการลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ ฉบับที่ 1 เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2562 ว่า กฟผ. เล็งเห็นถึงโอกาสในการจัดตั้งตลาดซื้อขายไฟฟ้าซึ่งมีรูปแบบคล้ายตลาดซื้อขายไฟฟ้าในยุโรป โดยในระยะแรก กฟผ. มีแผนจัดตั้งตลาดซื้อขายพลังงานไฟฟ้า ประกอบด้วย ตลาดซื้อขายไฟฟ้าล่วงหน้าหนึ่งวัน (Day-Ahead Market) และตลาดซื้อขายไฟฟ้าระหว่างวัน (Intraday Market) โดย กฟผ. จะเป็นผู้จัดทำกฎระเบียบการซื้อขายไฟฟ้า ขณะที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นผู้ให้คำปรึกษาในการพัฒนาระบบซื้อขาย เมื่อตลาดซื้อขายพลังงานไฟฟ้าทั้งสองมีเสถียรภาพและ สภาพคล่องแล้ว อาจพิจารณาให้มีการซื้อขายในตลาดซื้อขายกำลังการผลิตไฟฟ้า (Capacity Market) สำหรับจัดหา กำลังการผลิตล่วงหน้า และพัฒนาต่อเป็นสินค้าในตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) ในอนาคตด้วย
ทั้งนี้ การพัฒนาตลาดซื้อขายไฟฟ้ายังต้องปรับปรุงกฎหมาย กฎระเบียบ โครงสร้างกิจการไฟฟ้า รวมถึงการกำหนดนโยบายร่วมกันในการพัฒนาตลาดซื้อขายไฟฟ้าระหว่างกลุ่มประเทศอาเซียนในรูปแบบที่เหมาะสมเพื่อเดินหน้าสู่การเป็นศูนย์กลางการซื้อขายพลังงานไฟฟ้าทั้งในระดับประเทศและภูมิภาคอาเซียน
นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์ฯ เปิดเผยว่า ประเทศไทยมีสาธารณูปโภคที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่ง แม้ในยุคปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา พลังงานยังเป็นฟันเฟืองสำคัญในการพัฒนาและขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ การลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ จะเป็นการนำผลการศึกษาที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ และกฟผ. ศึกษาร่วมกันในระยะเวลา 1 ปี มาพัฒนาต่อยอด โดยที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะได้ถ่ายทอดความรู้ด้านการซื้อขายหลักทรัพย์ การส่งมอบ การชำระราคาหลักทรัพย์ และประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจการซื้อขายหลักทรัพย์ร่วมกับผู้ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้อง (Intermediaries) ตลาดหลักทรัพย์ฯ เชื่อว่าความร่วมมือดังกล่าวเป็นโอกาสที่จะนำ ผลการศึกษาไปต่อยอดสู่การพัฒนาสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เพื่อเป็นอีกทางเลือกสำหรับผู้ลงทุนในอนาคต ซึ่งเป็นหนึ่งใน แผนกลยุทธ์สำคัญของตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่พร้อมเติบโตด้วยการสร้างโอกาสใหม่ (Grow with New Opportunities) และ ด้วยศักยภาพของโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทยจะสามารถเป็นศูนย์กลางการซื้อขายพลังงานไฟฟ้าของภูมิภาคอาเซียน ในอนาคต
สำหรับการขยายโครงการความร่วมมือนั้น คณะทำงานฯ ได้จัดทำบันทึกความเข้าใจฯ ฉบับที่ 2 มีกรอบระยะเวลา 6 เดือน เพื่อศึกษาพัฒนาต่อยอดองค์ความรู้เกี่ยวกับการดำเนินงานของตลาดซื้อขายไฟฟ้าในเชิงลึกในแต่ละด้าน อาทิ แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมไฟฟ้าในอนาคต ระเบียบการซื้อขายในตลาดซื้อขายไฟฟ้าที่สอดคล้องและเหมาะสมกับบริบทของประเทศไทย บทบาทและความสำคัญของตลาดซื้อขายแลกเปลี่ยน (Exchange Market) และตลาดการเงิน (Financial Market) ในกิจการไฟฟ้าในอนาคต การแข่งขันในตลาดทุนเพื่อนำมาประยุกต์ใช้กับการแข่งขันในตลาดซื้อขายไฟฟ้า เพื่อนำข้อมูลจากการศึกษามาใช้ประกอบการจัดตั้งตลาดซื้อขายไฟฟ้าในอนาคต รวมถึงการเสนอให้มีการศึกษาการเปิดเสรีกิจการไฟฟ้าในระดับขายปลีกเพิ่มเติม เพื่อหาข้อดี ข้อเสีย ของอุตสาหกรรมไฟฟ้าทั้งในรูปแบบเดิม และรูปแบบการแข่งขันเสรี เต็มรูปแบบทั้งด้านผู้ซื้อและผู้ขาย เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อผู้บริโภคอย่างแท้จริง
No comments:
Post a Comment