2020 ถือเป็นปีที่พิเศษสำหรับ Grand Seiko เพราะนี่คือปีที่ 60 ที่พวกเราก่อกำเนิดขึ้นมา ซึ่งนั่นคือการย้อนกลับไปในวันที่ 18 ธันวาคม 1960 ในตอนนั้น ทีมที่รับผิดชอบการทำงานของ Seiko ที่ศูนย์ Suwa ตอนกลางของประเทศญี่ปุ่น ได้ทำงานอย่างเต็มที่และต่อเนื่องในการสร้างสรรค์เรือนเวลาที่จะสามารถตอบสนองได้ทั้งความเที่ยงตรง ความทนทาน ความสะดวกสบาย และความสวยงามเท่าที่มนุษย์จะสามารถสร้างสรรค์ให้เป็นจริงขึ้นมาได้ และในวันนั้นเอง ผลของความพยายามของพวกเขาก็สำเร็จเป็นนาฬิกาที่ตัวเรือนผลิตจากทอง 14k มาพร้อมกลไกที่มีความบางเฉียบ แต่มีความเที่ยงตรงชั้นเยี่ยมในระดับที่เทียบเท่ากับมาตรฐานความเที่ยงตรงสูงสุดที่นานาชาติให้การยอมรับ นี่คือความสำเร็จครั้งใหม่ของพวกเขาและมีการตัดสินใจที่จะเรียกนาฬิกาเรือนนั้นว่า Grand Seiko ในปัจจุบัน กับปีที่พิเศษเช่นนี้ การนำนาฬิกาเรือนแรกของ Grand Seiko จากยุค 1960 กลับมาทำใหม่อีกครั้ง ถือเป็นการช่วยเติมเต็มให้กับคอลเลคชั่นของ Grand Seiko ได้มีความสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น
เนื่องในโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปี Grand Seiko ได้ผลิตเรือนเวลาพิเศษออกมาทั้งหมด 3 รุ่น โดยทั้งหมดจะมาพร้อมกับตัวเรือนที่มีความบางเหมือนกัน และมีความเที่ยงตรงที่สามารถสัมผัสได้ด้วยการใช้กลไกไขลานรหัส 9S64 รูปทรงของตัวเรือนและหน้าปัดมีความโค้งมนอ่อนช้อย และชุดเข็มนาฬิกาได้รับการสร้างสรรค์โดยยึดมั่นจากรูปแบบที่มีอยู่ในรุ่นดั้งเดิมปี 1960 อย่างครบถ้วน แต่ฝาหลังสำหรับรุ่นใหม่จะเป็นแบบใสและใช้กระจก Sapphire เพื่อเปิดเผยให้สามารถสัมผัสและชื่นชมความงามของกลไกที่ได้รับการตกแต่งมาอย่างพิถีพิถัน และเพื่อรองรับกับความเปลี่ยนแปลงของตลาดที่หันมาเน้นนาฬิกาที่มีขนาดใหญ่ขึ้นนั้น ในรุ่นนี้จะมีการขยายขนาดจาก 35 มาเป็น 38 มิลลิเมตร พร้อมกับบานพับสายแบบ 3 ทบซึ่งช่วยให้การสวมใส่นาฬิกาง่ายขึ้น และมีการนำวัสดุ 3 แบบมาใช้ในการผลิตตัวเรือน โดยจะมีทั้งรุ่นที่ผลิตจากทอง 18k แพลทินัม ซึ่งใช้แพลทินัม 950 ในการผลิต และไทเทเนียมแบบแข็งที่มีความเงาวาว หรือ Brilliant Hard Titanium ซึ่งประดับตัวอักษร Grand Seiko ที่ถูกวางอยู่บนหน้าปัดมีความสวยเด่นขึ้นอย่างชัดเจน
ทั้ง 3 รุ่นมีความเด่นอยู่ที่ตัวเรือนอันบางเบา มีประสิทธิภาพในการทำงานของกลไกและความเที่ยงตรง ตัวเรือนมีความหนาเพียง 10.9 มิลลิเมตร และมีกำลังสำรอง 72 ชั่วโมง ส่วนความเที่ยงตรงอยู่ที่ +5 ถึง -3 วินาทีต่อวัน โดยทั้ง 3 รุ่นจะมากับสายหนังจระเข้
นาฬิกาที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาใหม่โดยอ้างอิงพื้นฐานนาฬิกาเรือนแรกของ Grand Seiko
รุ่นที่ 1 (SBGW257) ตัวเรือนผลิตจากแพลทินัม 950
สำหรับรุ่นที่ 2 (SBGW258) ตัวเรือนและหลักชั่วโมงบนหน้าปัดผลิตจากทองสีเหลือง 18k
ส่วนรุ่นที่ 3 (SBGW259) ตัวเรือนผลิตจากไทเทเนียมแบบแข็งที่มีความเงาวาว หรือ Brilliant Hard Titanium ซึ่งเป็นวัสดุพิเศษสำหรับ Grand Seiko เท่านั้น โดยความเบานั้นเทียบเท่ากับไทเทเนียมบริสุทธิ์ แต่ว่ามีความแข็งกว่า Stainless Steel 2 เท่า และมีความทนทานต่อการขูดขีด สำหรับสีของวัสดุจะมีความแวววาวและสว่างกว่าไทเทเนียมทั่วไปที่ถูกนำมาใช้เป็นวัสดุในการผลิตตัวเรือนนาฬิกา Grand Seiko สีสันบนตัวเรือนจะสว่างกว่าไทเทเนียมแบบอื่นที่ถูกใช้อยู่ในนาฬิกาของ Grand Seiko เมื่อบวกกับกรรมวิธีการขัดที่เป็นเอกลักษณ์ของ Seiko อย่าง Zaratus จะทำให้พื้นผิวของตัวเรือนมีความสวยและโดดเด่นมากยิ่งขึ้น
Re-creations of the first Grand Seiko
คาลิเบอร์ 9S64
ระบบขับเคลื่อน: ไขลาน
ความถี่: 28,880 ครั้งต่อชั่วโมง (8 ครั้งต่อนาที)
ความเที่ยงตรง: +5 ถึง -3 วินาทีต่อวัน (เมื่อวางนิ่งๆ อยู่กับที่)
พลังงานสำรอง : 72 ชั่วโมง
จำนวนทับทิม : 24 เม็ด
สายหนังจระเข้พร้อมกับบานพับแบบ 3 ทบและปุ่มกดคลายล็อค
กระจกแซฟไฟร์แบบความละเอียดสูงและเคลือบสารกันการสะท้อนแสง ฝาหลังแบบใสและขันเกลียว
ความสามารถกันน้ำ : 3 บาร์
การกันสนามแม่เหล็ก : 4,800 แอมแปร์ต่อเมตร
เส้นผ่านศูนย์กลางตัวเรือน 38.0 มิลลิเมตร
ความหนา : 10.9 มิลลิเมตร
ราคาจำหน่ายโดยประมาณ :
SBGW257 =1,329,100
SBGW258 = 930,300
SBGW259 = 282,400
ความสามารถกันน้ำ : 3 บาร์
การกันสนามแม่เหล็ก : 4,800 แอมแปร์ต่อเมตร
เส้นผ่านศูนย์กลางตัวเรือน 38.0 มิลลิเมตร
ความหนา : 10.9 มิลลิเมตร
ราคาจำหน่ายโดยประมาณ :
SBGW257 =1,329,100
SBGW258 = 930,300
SBGW259 = 282,400
No comments:
Post a Comment