Grand Seiko - ASEAN All News

ASEAN All News

ข่าวสารอัพเดท ทันทุกเทรนด์โลก รอบรั้วอาเซียน

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

Friday, October 16, 2020

Grand Seiko


2020 ถือเป็นปีที่พิเศษสำหรับ Grand Seiko เพราะนี่คือปีที่ 60 ที่พวกเราก่อกำเนิดขึ้นมา ซึ่งนั่นคือการย้อนกลับไปในวันที่ 18 ธันวาคม 1960 ในตอนนั้น ทีมที่รับผิดชอบการทำงานของ Seiko ที่ศูนย์ Suwa ตอนกลางของประเทศญี่ปุ่น ได้ทำงานอย่างเต็มที่และต่อเนื่องในการสร้างสรรค์เรือนเวลาที่จะสามารถตอบสนองได้ทั้งความเที่ยงตรง ความทนทาน ความสะดวกสบาย และความสวยงามเท่าที่มนุษย์จะสามารถสร้างสรรค์ให้เป็นจริงขึ้นมาได้ และในวันนั้นเอง ผลของความพยายามของพวกเขาก็สำเร็จเป็นนาฬิกาที่ตัวเรือนผลิตจากทอง 14k มาพร้อมกลไกที่มีความบางเฉียบ แต่มีความเที่ยงตรงชั้นเยี่ยมในระดับที่เทียบเท่ากับมาตรฐานความเที่ยงตรงสูงสุดที่นานาชาติให้การยอมรับ นี่คือความสำเร็จครั้งใหม่ของพวกเขาและมีการตัดสินใจที่จะเรียกนาฬิกาเรือนนั้นว่า Grand Seiko ในปัจจุบัน กับปีที่พิเศษเช่นนี้ การนำนาฬิกาเรือนแรกของ Grand Seiko จากยุค 1960 กลับมาทำใหม่อีกครั้ง ถือเป็นการช่วยเติมเต็มให้กับคอลเลคชั่นของ Grand Seiko ได้มีความสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น

เนื่องในโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปี Grand Seiko ได้ผลิตเรือนเวลาพิเศษออกมาทั้งหมด 3 รุ่น โดยทั้งหมดจะมาพร้อมกับตัวเรือนที่มีความบางเหมือนกัน และมีความเที่ยงตรงที่สามารถสัมผัสได้ด้วยการใช้กลไกไขลานรหัส 9S64 รูปทรงของตัวเรือนและหน้าปัดมีความโค้งมนอ่อนช้อย และชุดเข็มนาฬิกาได้รับการสร้างสรรค์โดยยึดมั่นจากรูปแบบที่มีอยู่ในรุ่นดั้งเดิมปี 1960 อย่างครบถ้วน แต่ฝาหลังสำหรับรุ่นใหม่จะเป็นแบบใสและใช้กระจก Sapphire เพื่อเปิดเผยให้สามารถสัมผัสและชื่นชมความงามของกลไกที่ได้รับการตกแต่งมาอย่างพิถีพิถัน และเพื่อรองรับกับความเปลี่ยนแปลงของตลาดที่หันมาเน้นนาฬิกาที่มีขนาดใหญ่ขึ้นนั้น ในรุ่นนี้จะมีการขยายขนาดจาก 35 มาเป็น 38 มิลลิเมตร พร้อมกับบานพับสายแบบ 3 ทบซึ่งช่วยให้การสวมใส่นาฬิกาง่ายขึ้น และมีการนำวัสดุ 3 แบบมาใช้ในการผลิตตัวเรือน โดยจะมีทั้งรุ่นที่ผลิตจากทอง 18k แพลทินัม ซึ่งใช้แพลทินัม 950 ในการผลิต และไทเทเนียมแบบแข็งที่มีความเงาวาว หรือ Brilliant Hard Titanium ซึ่งประดับตัวอักษร Grand Seiko ที่ถูกวางอยู่บนหน้าปัดมีความสวยเด่นขึ้นอย่างชัดเจน

ทั้ง 3 รุ่นมีความเด่นอยู่ที่ตัวเรือนอันบางเบา มีประสิทธิภาพในการทำงานของกลไกและความเที่ยงตรง ตัวเรือนมีความหนาเพียง 10.9 มิลลิเมตร และมีกำลังสำรอง 72 ชั่วโมง ส่วนความเที่ยงตรงอยู่ที่ +5 ถึง -3 วินาทีต่อวัน โดยทั้ง 3 รุ่นจะมากับสายหนังจระเข้

นาฬิกาที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาใหม่โดยอ้างอิงพื้นฐานนาฬิกาเรือนแรกของ Grand Seiko

รุ่นที่ 1 (SBGW257) ตัวเรือนผลิตจากแพลทินัม 950

สำหรับรุ่นที่ 2 (SBGW258) ตัวเรือนและหลักชั่วโมงบนหน้าปัดผลิตจากทองสีเหลือง 18k 
ส่วนรุ่นที่ 3 (SBGW259) ตัวเรือนผลิตจากไทเทเนียมแบบแข็งที่มีความเงาวาว หรือ Brilliant Hard Titanium ซึ่งเป็นวัสดุพิเศษสำหรับ Grand Seiko เท่านั้น โดยความเบานั้นเทียบเท่ากับไทเทเนียมบริสุทธิ์ แต่ว่ามีความแข็งกว่า Stainless Steel 2 เท่า และมีความทนทานต่อการขูดขีด สำหรับสีของวัสดุจะมีความแวววาวและสว่างกว่าไทเทเนียมทั่วไปที่ถูกนำมาใช้เป็นวัสดุในการผลิตตัวเรือนนาฬิกา Grand Seiko สีสันบนตัวเรือนจะสว่างกว่าไทเทเนียมแบบอื่นที่ถูกใช้อยู่ในนาฬิกาของ Grand Seiko เมื่อบวกกับกรรมวิธีการขัดที่เป็นเอกลักษณ์ของ Seiko อย่าง Zaratus จะทำให้พื้นผิวของตัวเรือนมีความสวยและโดดเด่นมากยิ่งขึ้น

Re-creations of the first Grand Seiko
คาลิเบอร์ 9S64
ระบบขับเคลื่อน: ไขลาน
ความถี่: 28,880 ครั้งต่อชั่วโมง (8 ครั้งต่อนาที)
ความเที่ยงตรง: +5 ถึง -3 วินาทีต่อวัน (เมื่อวางนิ่งๆ อยู่กับที่)

พลังงานสำรอง : 72 ชั่วโมง

จำนวนทับทิม : 24 เม็ด

สายหนังจระเข้พร้อมกับบานพับแบบ 3 ทบและปุ่มกดคลายล็อค

กระจกแซฟไฟร์แบบความละเอียดสูงและเคลือบสารกันการสะท้อนแสง ฝาหลังแบบใสและขันเกลียว

ความสามารถกันน้ำ : 3 บาร์

การกันสนามแม่เหล็ก : 4,800 แอมแปร์ต่อเมตร

เส้นผ่านศูนย์กลางตัวเรือน 38.0 มิลลิเมตร

ความหนา : 10.9 มิลลิเมตร

ราคาจำหน่ายโดยประมาณ :

SBGW257 =1,329,100

SBGW258 = 930,300

SBGW259 = 282,400

No comments:

Post a Comment

Post Bottom Ad


Pages