นายแพทย์น๊อต เตชะวัฒนวรรณา ผู้ช่วยผู้อำนวยการ โรงพยาบาลพระรามเก้า เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวนผู้ป่วยในสถานพยาบาลยังมีจำนวนมาก จนทำให้ห้องพักรักษาตัวสำหรับผู้ป่วยโควิดไม่เพียงพอ โรงพยาบาลพระรามเก้าเล็งเห็นถึงความสำคัญในการดูแลรักษาผู้ป่วย จึงได้ร่วมกับ วี โฮเต็ล กรุงเทพ ร่วมกันเปิด ‘Hospitel’ หรือห้องพักเฉพาะกิจในโรงแรม ภายใต้การดูแลของโรงพยาบาลฯ โดย โรงแรม วี กรุงเทพ ได้ผ่านเกณฑ์การตรวจสอบมาตรฐานจากกระทรวงสาธารณสุข เพื่อเปิดบริการเป็น Hospitel ซึ่งมีความพร้อม ทั้งทีมบุคลากรทางการแพทย์, อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อการรักษาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งผู้ป่วยในกลุ่มอาการไม่รุนแรงหรือกลุ่มสีเขียว (Asymptomatic to Mild cases) จะสามารถเข้าพักรักษาที่โรงแรมได้ทันที หลังจากที่ได้ประเมินโดยแพทย์ประจำโรงพยาบาลแล้ว”
ความพร้อมในการดูแลผู้ป่วยที่ Hospitel ผู้ป่วยที่เข้าเกณฑ์ประเมินจากแพทย์จะได้รับรักษาอาการที่ Hospitel โดยในระหว่างรักษาจะมีทีมแพทย์ตรวจประเมินอาการ พร้อมให้คำแนะนำการรักษาผ่านระบบ Telemedicine ผู้ป่วยจะได้รับบริการอาหาร และยา จนกระทั่งหายเป็นปกติ
นอกจากนี้ รพ.ยังจัดรถเอกซเรย์ เพื่อไปทำการเอกซเรย์ ให้ผู้ป่วยในการตรวจประเมินปอด โดยรอบการให้บริการ จะเป็น วันจันทร์ วันพุธ และพฤหัสบดี เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ป่วย รวมทั้งภายใน Hospitel ยังมีการสำรอง ถังออกซิเจน และรถพยาบาลเพื่อเตรียมความพร้อมหากกรณีต้องมาโรงพยาบาล
นายแพทย์น๊อต กล่าวต่อไปว่า สำหรับผู้ป่วยที่เข้ารักษาการรักษาที่ Hospitel จะเป็นกลุ่มอาการไม่รุนแรง หรือกลุ่มสีเขียว ซึ่งรับการประเมินจากแพทย์แล้ว โดยรายละเอียดการเข้ารับการรักษา จะมีการสอบถามข้อมูล ประวัติ จากนั้นจะมีการประสานงานเพื่อไปรับ เพื่อเข้ารักษาตามเกณฑ์ประเมิน ซึ่งหากระหว่างการพักรักษาตัว ถ้าผู้ป่วยมีอาการรุนแรงขึ้น สามารถเคลื่อนย้ายผู้ป่วยเข้ารักษาที่รพ.ได้อย่างทันท่วงที
ทั้งนี้ ทางรพ.ยังมีความพร้อมในการดูแลผู้ป่วย ใน “กลุ่มสีเหลือง” โดยได้จัดพื้นที่ ward เฉพาะกิจสำหรับผู้ป่วยกลุ่มนี้ถึง 80 ห้อง และผู้ป่วยอาการหนัก หรือ “กลุ่มผู้ป่วยสีแดง” ICU รองรับผู้ป่วยได้อีก 20 ห้อง
มร. นิโคลัส เพธ ผู้จัดการทั่วไป โรงแรม วี กรุงเทพ กล่าวว่า การร่วมมือกับทางโรงพยาบาลพระรามเก้าในครั้งนี้ ทางโรงแรมมีความพร้อมในการให้บริการห้อง 5 รูปแบบ คือ ห้อง DELUXE KING และห้อง DELUXE TWIN พื้นที่ 38-41 ตารางเมตร มีบริการไวไฟฟรี ในห้องพัก พร้อม TV จอขนาดใหญ่และชุดอำนวยความสะดวกครบครัน ในราคา 8,100 บาท/คืน/ท่าน (ลด 20% สำหรับผู้พักร่วมคนที่ 2 เฉพาะค่าห้อง)
ห้อง DELUXE SUITE พื้นที่ 76-81 ตารางเมตร พร้อมห้องนั่งเล่นกว้างขวาง และห้อง EXECUTIVE SUITE พื้นที่ 81 ตารางเมตร เป็นห้องมุม วิวดี พร้อมห้องนั่งเล่นกว้างขวาง มีบริการไวไฟฟรี ในห้องพัก พร้อม TV จอขนาดใหญ่และชุดอำนวยความสะดวกครบครัน ในราคา 10,000 บาท/คืน/ท่าน (ลด 20% สำหรับผู้พักร่วมคนที่ 2 เฉพาะค่าห้อง)
และ ห้อง GRAND DUPLEX SUITE แบ่งเป็นพื้นที่ 125 ตารางเมตร ห้องขนาดใหญ่ 2 ชั้นพร้อมห้องนั่งเล่น และห้องรับประทานอาหารขนาดใหญ่ และห้องมุมขนาดใหญ่ 2 ชั้น พื้นที่ 145 ตารางเมตร วิวสวย พร้อมห้องนั่งเล่น และห้องรับประทานอาหารขนาดใหญ่ในราคา 15,200 บาท/คืน/ท่าน (ลด 20% สำหรับผู้พักร่วมคนที่ 2 เฉพาะค่าห้อง)
โดยราคาดังกล่าว เป็นแพ็คเกจรวมค่าห้อง ค่าอาหาร และค่าบริการพยาบาลเรียบร้อยแล้ว แต่ไม่รวมค่าบริการทางการแพทย์ ค่า XRAY ค่า LAB ค่ายา ค่ารถรับส่ง และค่าตรวจหรือค่ารักษาอื่นๆ ผู้ที่มีประกันสุขภาพ สามารถเคลมประกันได้
นายแพทย์น๊อต กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับขั้นตอนการเข้ารับบริการ เมื่อสอบถามข้อมูลผู้ป่วย และได้ผลตรวจโควิดเรียบร้อยแล้ว จะมีการประสานแพทย์เพื่อพูดคุยกับผู้ป่วยทางโทรศัพท์ และประเมินอาการเพื่อยืนยันว่าสามารถเข้ารักษาที่ Hospitel ได้ ซึ่งหลังจากการประเมิน เมื่อเข้าพักรักษา แพทย์จะTelemedicine กับผู้ป่วยเพื่อพูดคุยถึงขั้นตอนการรักษา โดยผู้ป่วยจะได้รับการ X-RAY เจาะเลือด รับยา ติดตามผลจากแพทย์ เปรียบเสมือนอยู่ในรพ. รวมทั้งภายใน Hospitel จะมีเจ้าหน้าที่พยาบาลคอยบริการ และมอนิเตอร์ผู้ป่วยตลอดเวลา
นอกจากนี้ สำหรับผู้ป่วยที่หายแล้ว รพ.ยังมีการติดตามดูแลอย่างต่อเนื่องเป็นระยะ ในผู้ป่วยกลุ่มที่มีปอดอักเสบ และส่งต่อผู้ป่วยไปยังแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเพื่อดูแลต่อ ทั้งในเรื่องของปอด หัวใจ สมอง รวมไปถึงจิตใจ รพ.จะมีจิตแพทย์ดูแลความเครียด เนื่องจากผู้ป่วยอาจมีอาการซึมเศร้า วิตกกังวล และอารมณ์แปรปรวน ซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นได้ รวมไปถึงการดูแลในส่วนของความแข็งแรงของร่างกาย ซึ่งเรามีสถาบันรักษาความปวด และสร้างเสริมความเข้มแข็ง หรือ FIX&FIT ที่พร้อมดูแลเสริมสร้างร่างกาย อีกด้วย
“หากพบว่ามีการผิดปกติ เช่น มีการไข้ ไอเจ็บคอ มีน้ำมูก กลิ่นไม่ได้รับรส จมูกไม่ได้กลิ่น ท้องเสีย หรือไปในพื้นที่เสี่ยง หรือสัมผัสใกล้ชิด สามารถตรวจหาเชื้อโควิดกับรพ.ได้ หรือหากใครผล ATK เป็นบวก สามารถมารับการตรวจ RT-PCR กับโรงพยาบาลพระรามเก้าได้ เพื่อเข้ารับการรักษา หรือสามารถติดต่อสอบถามเพื่อเข้ารักษาตัวที่ Hospitel ได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8:00-17:00 น. เบอร์โทร 02-202-9889 หรือ ผ่าน line official account : @PR9Hospitel” นายแพทย์น๊อต กล่าวสรุปในตอนท้าย
No comments:
Post a Comment