มุ่งพัฒนาทักษะการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัยในกลุ่มเยาวชนอายุ 10-18 ปี เพื่อการสัญจรที่ปลอดภัยอย่างยั่งยืน
นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า หลักสูตร VIA จะถูกนำไปปรับใช้ให้เข้ากับการเรียนการสอนระดับประถมศึกษาตอนปลายและระดับมัธยมศึกษาในแต่ละโรงเรียนเป้าหมายตามความเหมาะสม ทั้งนี้ ที่ผ่านมาได้มีการดำเนินโครงการนำร่อง ณ โรงเรียน 5 แห่งในจังหวัดสมุทรปราการ ก่อนจะขยายผลต่อเนื่องไปยังโรงเรียนสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ 36 แห่ง และโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานครอีก 9 แห่ง โดยหลักสูตรดังกล่าวสอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงฯ ที่มุ่งพัฒนาศักยภาพและเสริมทักษะด้านความปลอดภัยอย่างรอบด้านให้กับเยาวชน
VIA Road Safety Education Program เป็นหลักสูตรการศึกษาเกี่ยวกับความปลอดภัยทางถนนผ่านการเรียนการสอนแบบผสมผสานหลายรูปแบบ ทั้งจากการปฏิบัติจริงและการจำลองสถานการณ์ โดยมีการใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลร่วมด้วย เพื่อกระตุ้นให้เยาวชนกลุ่มเป้าหมายอายุระหว่าง 10-18 ปี สามารถคิดวิเคราะห์ ประเมินและหลีกเลี่ยงความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุทางถนนได้ด้วยตนเอง ตลอดจนพัฒนาทักษะในการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัยและมีวินัยเพื่อความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่น ทั้งนี้ หลักสูตรดังกล่าวซึ่งดำเนินการโดยมูลนิธิป้องกันอุบัติภัยแห่งเอเชีย (AIP Foundation) ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อให้มีความยืดหยุ่นในการนำไปปรับใช้ร่วมกับการเรียนการสอนในประเทศต่างๆ โดยประสบความสำเร็จมาแล้วในประเทศฝรั่งเศส แคเมอรูน และอินเดีย สำหรับประเทศไทยถือเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่นำหลักสูตรนี้มาใช้
มานูเอล มอนตานา (Manuel Montana) ประธานกลุ่มมิชลิน ประจำภาคพื้นเอเชียตะวันออกและออสเตรเลีย กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลากว่า 28 ปี มิชลินได้ให้ความสำคัญและริเริ่มจัดกิจกรรมรณรงค์เรื่องความปลอดภัยบนท้องถนนร่วมกับภาครัฐและภาคเอกชนมาอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งหวังที่จะลดอุบัติเหตุและสร้างการสัญจรที่ปลอดภัยยิ่งขึ้นอย่างยั่งยืนสำหรับผู้ใช้รถใช้ถนนในประเทศไทย การสนับสนุนงบประมาณเพื่อนำหลักสูตร VIA มาปรับใช้ในสถานศึกษาของไทยครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งความพยายามที่ตอกย้ำความมุ่งมั่นดังกล่าว โดยมุ่งสร้างผู้ใช้รถใช้ถนนรุ่นใหม่ที่มีความรับผิดชอบให้กับสังคมไทย”
ปาสกาล ลารอช (Pascal Laroche) ประธานกลุ่มบริษัท โททาลเอนเนอร์ยีส์ ประเทศไทย และผู้จัดการใหญ่ บริษัท โททาลเอนเนอร์ยีส์ อีพี ประเทศไทย กล่าวเสริมว่า “เรามั่นใจในประสิทธิภาพของหลักสูตร VIA ว่าจะช่วยเสริมทักษะให้เยาวชนไทยใช้รถใช้ถนนได้อย่างปลอดภัยยิ่งขึ้น โดยสามารถประเมินและหลีกเลี่ยงความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุทางถนนได้ และหวังว่าในอนาคตจะสามารถต่อยอดขยายผลนำหลักสูตรนี้ไปใช้ในโรงเรียนจำนวนมากขึ้นภายใต้การสนับสนุนของหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง”
รายงานสถานการณ์โลกด้านความปลอดภัยทางถนนขององค์การอนามัยโลกพบว่า อุบัติเหตุทางถนนเป็นสาเหตุการเสียชีวิตของคนในหลายประเทศทั่วโลกปีละประมาณ 1.35 ล้านคน โดยประเทศไทยเป็นประเทศที่มีอัตราการเกิดอุบัติเหตุสูงเป็นอันดับ 9 ของโลก และสูงที่สุดเป็นอันดับ 1 ในเอเชียและภูมิภาคอาเซียน ทั้งนี้ ข้อมูลการบูรณาการข้อมูลผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน 3 ฐาน ได้แก่ กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และบริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด พบว่าอัตราผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนในประเทศไทยประจำปี 2563 อยู่ที่ราว 18,000 ราย ในจำนวนนี้เป็นเด็กและเยาวชนเกือบ 3 พันราย คิดเป็นมูลค่าความสูญเสียทางเศรษฐกิจหลายแสนล้านบาท
///////////////////////////////////////////////////////////////////
เกี่ยวกับมิชลิน
มิชลิน ในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมยางรถยนต์ มุ่งมั่นส่งเสริมการสัญจรของลูกค้าอย่างยั่งยืน ออกแบบและจัดจำหน่ายยางที่เหมาะกับการใช้งานมากที่สุด ตลอดจนให้บริการและโซลูชั่นที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า ซึ่งครอบคลุม
การให้บริการทางดิจิทัล การจัดทำคู่มือและแผนที่สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวเพื่อสัมผัสประสบการณ์ที่แตกต่าง
ไม่เหมือนใคร รวมถึงการพัฒนาวัสดุทางเทคโนโลยีขั้นสูงสำหรับอุตสาหกรรมการสัญจร กลุ่มมิชลินมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองแกลร์มง-แฟร็อง ประเทศฝรั่งเศส และมีสำนักงานสาขาอยู่ใน 170 ประเทศ โดยมีพนักงาน 123,600 คน
ทั่วโลก และมีโรงงานผลิตยาง 71 แห่ง ซึ่งผลิตยางรวมกันได้สูงถึง 170 ล้านเส้นในปี 2563 คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.michelin.co.th
เกี่ยวกับโททาลเอนเนอร์ยีส์
กลุ่มบริษัท โททาลเอนเนอร์ยีส์ เป็นหนึ่งในบริษัทน้ำมันและก๊าซที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่
กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส โดยพนักงานกว่า 98,000 ราย ซึ่งปฏิบัติงานอยู่ในกว่า 130 ประเทศทั่วโลก มุ่งมั่นนำเสนอนวัตกรรมด้านพลังงานที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เพื่อให้ผู้คนจำนวนมากเท่าที่
จะเป็นไปได้สามารถเข้าถึงได้อย่างสะดวก ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทฯ มีเจตนารมณ์มุ่งมั่นที่จะดำเนินงานเพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม www.totalenergies.com
No comments:
Post a Comment