25 ตุลาคม 2565 – รัญชนพงศ์ อยู่ประยงค์, พงศภัค เหล่าภักดี, ศรุต วงค์ชัยสิทธิ์ และ อชิตะ เปี่ยมกุลวนิช สี่นักกอล์ฟตัวแทนจากประเทศไทย พกความมั่นใจลงสู้ศึก “เอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปี้ยนชิพ” ในบ้าน เพื่อเป็นนักกอล์ฟไทยคนแรกที่คว้าแชมป์รายการนี้ และโอกาสลุ้นสิทธิ์ลุยสองรายการเมเจอร์ปีหน้า
สมาพันธ์กอล์ฟเอเชีย-แปซิฟิก (เอพีจีซี) ร่วมกับ เดอะ มาสเตอร์ส ทัวร์นาเมนต์ และ องค์กรกำกับดูแลกีฬากอล์ฟระหว่างประเทศ (เดอะ อาร์แอนด์เอ) จัดการแข่งขันกอล์ฟการแข่งขันกอล์ฟสมัครเล่นรายการ “เอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปี้ยนชิพ” หรือ “เอเอซี” ครั้งที่ 13 ณ จังหวัดชลบุรี ระหว่างวันที่ 27-30 ตุลาคมนี้ โดยที่ผ่านมารายการนี้สร้างนักกอล์ฟระดับซูเปอร์สตาร์มาแล้วหลายคน โดยเฉพาะ ฮิเดกิ มัตซึยาม่า เจ้าของแชมป์ เดอะ มาสเตอร์ส 2021 จากญี่ปุ่น (แชมป์รายการนี้เมื่อปี 2010 และ 2011) และ คาเมอรอน สมิธ เจ้าของแชมป์ ดิ โอเพ่น 2022 จากออสเตรเลีย ที่เคยคว้าอันดับ 4 ในรายการนี้จากเมื่อปี 2011
ล่าสุดเมื่อวันอังคารที่ 25 ตุลาคม 2565 เป็นรอบฝึกซ้อมวันแรก และเปิดให้สื่อมวลชนสัมภาษณ์สี่นักกอล์ฟชาวไทยประกอบด้วย รัญชนพงศ์ อยู่ประยงค์, ศรุต วงค์ชัยสิทธิ์, พงศภัค เหล่าภักดี และ อชิตะ เปี่ยมกุลวนิช ภายหลังจากลงฝึกซ้อมอย่างเป็นทางการในช่วงบ่าย
รัญชนพงศ์ อยู่ประยงค์ ว่าที่บัณฑิตมหาวิทยาลัยเซาท์ฟลอริด้า ซึ่งลงแข่งขันรายการนี้เป็นครั้งที่ 3 เปิดเผยว่า “ที่ผ่านมาได้รับประสบการณ์มากมายจากการแข่งขันรายการนี้ และหวังว่าครั้งนี้จะเป็นปีสั่งลารายการนี้เพื่อก้าวไปสู่ระดับอาชีพต่อไป และหากจะปิดฉากด้วยการคว้าแชมป์ได้ก็จะเรื่องที่ดีมาก เพราะได้เล่นที่เมืองไทย และยังได้โอกาสร่วมแข่งขันใน 2 รายการเมเจอร์อีกด้วย”
ศรุต วงค์ชัยสิทธิ์ นักศึกษามหาวิทยาลัยมิสซิสซิปปี สหรัฐอเมริกา พูดถึงการลงแข่งเอเอเซีเป็นครั้งที่ 2 ว่า “ผมเริ่มคุ้นเคยกับรายการนี้มากขึ้น การได้มาเล่นที่เมืองไทย ถือว่าได้เปรียบในเรื่องความคุ้นเคย และเคยมีโอกาสลงเล่นที่สนามแห่งนี้หลายครั้ง สนามท้าทาย ลมแรง โดยเฉพาะหลุม 8-9 ที่มีน้ำด้านซ้าย”
ด้าน พงศภัค เหล่าภักดี และ อชิตะ เปี่ยมกุลวนิช ดีกรีแชมป์สมัครเล่นประเทศไทย รายการ สิงห์ ไทยแลนด์ อเมเจอร์ โอเพ่น ที่ต่างลงเล่นรายการนี้เป็นครั้งแรก โดย พงศภัค เผยถึงโอกาสลงแข่งขันในรายการนี้ว่า “ยอมรับว่าตื่นเต้น เพราะนอกจากจะมีรางวัลเป็นสิทธิ์ร่วมแข่งขัน 2 รายการเมเจอร์แล้ว ยังถือเป็นแมตช์แข่งขันรายการใหญ่ที่สุดในชีวิตที่เล่นในเมืองไทยอีกด้วย ยอมรับว่าได้เปรียบเล็กน้อย แต่ผลงานจะเป็นอย่างไรอยู่ที่ว่าตัวเองจะทำได้ดีแค่ไหน”
ขณะที่ อชิตะ ซึ่งเพิ่งคว้าถ้วยพระราชทาน ร.7 จากการแข่งขันเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กล่าวว่า “ผมเพิ่งมาเล่นสนามแห่งนี้เป็นครั้งที่ 2 อุปสรรคของที่นี่คือความยาวของสนาม และต้องเจอกับลมแรง แต่ก็ซ้อมมาเต็มที่ อีกทั้งเพิ่งการคว้าถ้วย ร.7 ทำให้เพิ่มความมั่นใจมากขึ้น รวมถึงการได้เล่นต่อหน้าครอบครัว และแฟนกอล์ฟชาวไทย น่าจะช่วยให้รู้สึกอบอุ่น”
สำหรับ เอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปี้ยนชิพ ปีนี้มีนักกอล์ฟสมัครเล่นชั้นนำกว่า 119 คนจาก 38 ประเทศสมาชิก โดยแชมป์เอเอซี จะได้รับเชิญเข้าร่วมแข่งขันในระดับเมเจอร์ รายการ เดอะ มาสเตอร์ส 2023 และ ดิ โอเพน ครั้งที่ 151 ขณะที่รองแชมป์จะได้สิทธิ์ลงเล่นรอบคัดเลือกรอบสุดท้าย เพื่อลุ้นสิทธิ์ลงแข่งขันราย
ติดตามรายละเอียดและความเคลื่อนไหวของการแข่งขันกอล์ฟรายการ เอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปี้ยนชิพ ได้ทางเว็บไซต์ www.aacgolf.com
No comments:
Post a Comment