กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ (DITP) เผยความสำเร็จของวงการธุรกิจผลไม้ประเทศไทย ที่ต่างยกระดับด้วยกระบวนการทางธุรกิจผนวกเทคโนโลยีและนวัตกรรม นำมาสู่ความเป็นผู้นำในตลาดโลก ทั้งในฐานะผู้ส่งออกและนำเข้า สร้างความได้เปรียบด้านการแข่งขันในมุมผู้ส่งออก พร้อมขยายทางเลือกผู้บริโภคไทยจากความได้เปรียบด้านราคานำเข้าผลไม้
นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เผยว่า “กลุ่มธุรกิจส่งออกและนำเข้าผลไม้ของประเทศไทยได้เข้ามามีบทบาทในเวทีสากลเพิ่มมากขึ้น จากความมุ่งมั่นของหน่วยงานภาครัฐที่เข้ามามีส่วนผลักดันภาคอุตสาหกรรมอาหารและผลไม้ ออกไปสู่เวทีตลาดโลกให้มากที่สุด เนื่องจากประเทศไทยมีศักยภาพในการส่งออกจนขึ้นชื่อว่าเป็น ครัวของโลก ( Kitchen of the World ) ประกอบกับการเติบโตของประชากรโลกที่มีการคาดการณ์ว่าจะมีจำนวนเพิ่มจาก 8,000 ล้านคนในปัจจุบันเป็น 10,000 ล้านคน ก็เป็นโอกาสต่อความต้องการอาหารที่เพิ่มขึ้นด้วย ขณะเดียวกันก็เป็นโอกาสที่จะเห็นอาหารและผลไม้นำเข้าจากต่างประเทศเข้ามาให้ผู้บริโภคไทยให้เลือกซื้อทานหลากหลายมากขึ้น เพราะอุตสาหกรรมอาหารและผลไม้นำเข้า - ส่งออก เป็นตลาดที่ส่งกลิ่นเนื้อหอมอย่างมากในแง่ของ Demand ที่ยังมีอย่างต่อเนื่องและมากขึ้นทุก ๆ ปี จึงส่งผลทำให้เกิดผู้ประกอบการรายใหม่ ๆ เข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมดังกล่าวมากขึ้น ทั้งการนำเข้าและส่งออกอาหารและผลไม้จากประเทศไทยไปต่างประเทศ และจากต่างประเทศไทยมาประเทศไทย
โดยมีกลุ่มตัวอย่างของผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จและสามารถครองบทบาทในตลาดสากลมากมาย ซึ่งหนึ่งในตัวอย่างที่น่าสนใจได้แก่ วิภาวี วัชรากร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วัชมนฟู้ด จำกัด ผู้นำเข้าและส่งออกผลไม้รายใหญ่ของประเทศไทย ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในด้านการเป็นทั้งผู้ส่งออกผลไม้ไทยคือ มะพร้าว ส้มโอ มะม่วง ไปขายยังประเทศจีน สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และเป็นผู้ประกอบการไทยคนแรกที่ได้นำเข้าผลไม้เมืองนอกจาก 18 ประเทศทั่วโลก เช่น แอปเปิ้ล เชอร์รี่ บลูเบอร์รี่ กีวี สตรอเบอรี่ ทำให้คนไทยได้มีโอกาสทานผลไม้นำเข้าในราคาที่จับต้องได้ โดยได้รับการสนับสนุนจากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ในการผลักดันให้ผลไม้ของ วัชมนฟู้ด ให้มีความน่าเชื่อถือผ่านการพาไปออกบูธร่วมกับกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เพราะในสายตาของลูกค้าชาวต่างชาตินั้น การได้ร่วมออกบูธกับ DITP หมายถึงสินค้าได้ถูกคัดเลือกมาแล้วว่าเป็นสินค้าที่มีคุณภาพ เท่ากับเป็นช่วยยกระดับผลไม้ไทยก้าวสู่เวทีโลกได้อย่างมั่นคง และสามารถก่อให้เกิดการสร้างรายได้ทางเศรษฐกิจเข้ามาในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น เพราะจากข้อมูลของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ในปัจจุบันเปิดเผยว่า ประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกอาหารติดอันดับ 15 ของโลก มีมูลค่าการส่งออกถึง 1.36 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 22.7 %
ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มได้ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการในด้านการปรับตัวเป็นอย่างมาก ซึ่งกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ พร้อมที่จะส่งเสริมและผลักดันพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมอาหารของไทยในหลากหลายแนวทาง เพื่อให้อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มไทยกลับมาเฟื่องฟูอีกครั้งหลังจากสถานการณ์ โควิด-19 ได้บรรเทาลง
สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมของกรม สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ www.ditp.go.th หรือ สายด่วนการค้าระหว่างประเทศ 1169
No comments:
Post a Comment