วันนี้ (18 กุมภาพันธ์ 2568) เวลา 09.30 น. กรมศุลกากรจัดพิธีทำลายของกลางที่คดีถึงที่สุดแล้วไปทำลาย รวมทั้งสิ้น 602,600 ชิ้น คิดเป็นมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจกว่า 46 ล้านบาท โดยมีนายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร เป็นประธานฯ ร่วมด้วย นางกิจจาลักษณ์ ศรีนุชศาสตร์ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบสิทธิประโยชน์ทางศุลกากร นายดิเรก คชารักษ์ รองอธิบดีกรมศุลกากร นายภาคภูมิ เลิศวัฒนารักษ์ ผู้อำนวยการกองสืบสวนและปราบปราม กรมศุลกากร นายพีรกานต์ บูรณากาญจน์ ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรกรุงเทพ กรมศุลกากร นายกฤดิพรรธน์ สิงห์อุบลปิติกุล ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรตรวจสินค้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พร้อมด้วยนายอาวุธ วงศ์สวัสดิ์ รองอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา และ ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ร่วมพิธีดังกล่าว ณ ห้องโถง อาคาร 1 กรมศุลกากร
นายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า ตามที่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง มีนโยบายให้กรมศุลกากรให้ความสำคัญกับการป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำเข้าสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ สินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้า สินค้าที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของประชาชนอย่างบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า และสินค้าประเภทอื่น ๆ อย่างเข้มงวด เพื่อรักษากลไกทางการตลาด และเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน กรมศุลกากรจึงได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรเข้มงวดกวดขันในการป้องกันและปราบปรามผู้กระทำความผิดในการลักลอบ หลีกเลี่ยงนำเข้าสินค้าดังกล่าว อีกทั้ง ยังเน้นให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรบูรณาการปฏิบัติงานร่วมกับหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมทรัพย์สินทางปัญญา กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) เพื่อให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพสูงสุดและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
No comments:
Post a Comment