กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา ร่วมสืบสานการกวนขนมอาซูรอ ภายใต้ “โครงการอาซูรอสัมพันธ์และต้อนรับปีใหม่ฮิจเราะห์ศักราช ๑๔๔๗” ร่วมกับจังหวัดปัตตานี นายชัยพล สุขเอี่ยม อธิบดีกรมการศาสสา เป็นประธานในพิธีมอบรางวัล และกล่าวแสดงความยินดีพร้อมด้วย นายสนั่น สนธิเมือง รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี นายแวดือราแม มะมิงจิ ประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี ผู้นำองค์การศาสนาในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค องค์กรเครือข่าย และศาสนิกชนในพื้นที่ ณ สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี ระหว่างวันที่ ๔ - ๕ สิงหาคม ๒๕๖๘
นายชัยพล สุขเอี่ยม อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวว่า “กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา ได้ตระหนักถึงโอกาสของการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในมิติทางศาสนาของประเทศไทย สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล และกระทรวงวัฒนธรรม ในการส่งเสริมเทศกาลประเพณีของชาติและเทศกาลอื่นๆ ด้านวัฒนธรรมเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชนเชิงศาสนาและวัฒนธรรม สืบสานประเพณี วัฒนธรรมอันดีงามของไทย ส่งเสริมให้เกิดความรัก ความสามัคคี และการอยู่ร่วมกันของประชาชนในพื้นที่ และโอกาสในการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมท้องถิ่นภาคใต้ อันจะนำมาซึ่งการสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจของจังหวัด นำพลังศาสนามาเป็นพลังขับเคลื่อนไปสู่ความร่วมมือในการสร้างความสมานฉันท์แก่คนในชาติ จึงได้บูรณาการกับภาคใต้ ๕ จังหวัด ได้แก่ ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สตูล และสงขลา ทั้งนี้คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด ๕ จังหวัด ได้จัดประกวดการกวนขนมอาซูรอทั้ง ๕ จังหวัด ประกวดหาทีมผู้ชนะ และรองชนะเลิศอันดับ ๑ เพื่อเข้าร่วมประกวดเพื่อหาผู้ชนะเลิศในพื้นที่ ๕ จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง ณ จังหวัดปัตตานี ภายใต้งาน “โครงการอาซูรอสัมพันธ์และต้อนรับปีใหม่ฮิจเราะห์ศักราช ๑๔๔๗” ระหว่างวันที่ ๔ - ๕ สิงหาคม ๒๕๖๘ ณ สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี
นายชัยพล สุขเอี่ยม อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวว่า วันอาซูรอ คือ วันแห่งการขอบคุณพระเจ้าเป็นวันประเสริฐสำหรับการถือศีลอดรองมาจากเดือนรอมฎอม มีกำหนดจัดงานในวันที่ ๑๐ ของเดือนมุฮัรรอม (เดือนที่ ๑ ของปฏิทินอิสลาม) ซึ่งเป็นเดือนแรกของปฏิทินอาหรับเรียกได้ว่าเป็นช่วงเวลาปีใหม่ของชาวมุสลิม และมีกิจกรรมต่อเนื่องทั้งเดือน โดยช่วงเวลานี้ชาวไทยมุสลิมจะมีประเพณีกวนขนมอาซูรอซึ่งเป็นขนมพื้นเมืองในจังหวัดภาคใต้ตอนล่าง ที่ได้จากการนำอาหารหลายอย่างมารวมกันแล้วกวนให้เป็นเนื้อเดียวกันคล้ายขนมเปียกปูนคำว่า “อาซูรอ” มาจากภาษาอาหรับ แปลว่า การผสม มาจากการนําสิ่งของที่รับประทานได้มากวนรวมกัน เครื่องปรุงขนมที่ใช้ ได้แก่ เครื่องแกง ข้าวสาร น้ำตาล กะทิ และของที่กินได้อื่นๆ อาทิ มัน กล้วย ผลไม้ เนื้อสัตว์ ไข่ เป็นประเพณีที่สำคัญของชาวมุสลิมที่ปฏิบัติสืบต่อกันมาเป็นเวลายาวนานนับพันปี โดยเริ่มจากเจ้าภาพประกาศ เชิญชวนชาวบ้านว่าจะมีการกวนขนมเมื่อถึงวันนัดหมาย ชาวบ้านจะนำเครื่องปรุงขนมมารวมกันและช่วยกันกวน เมื่อเสร็จแล้ว เจ้าภาพจะเชิญบุคคลที่น่านับถือของชุมชนขึ้นมากล่าวขอพร (ดุอาอ์) ก่อน จึงจะแจกให้คนทั่วไปรับประทานกัน เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ทุกคนรักและสามัคคีกัน นับเป็นกิจกรรมเพื่อสร้างความพร้อมเพรียงเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ซึ่งในปัจจุบันในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง ก็ยังมีการจัดเป็นงานประเพณีกวนขนมอาซูรอขึ้นในชุมชนเป็นประจำทุกปี
ภายในงานมีกิจกรรมการประกวดกวนขนมอาซูรอ ๒ ประเภท คือ ดั้งเดิม และความคิดสร้างสรรค์ โดยผลการประกวดประเภทดั้งเดิม มีดังนี้ รางวัลชนะเลิศ อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส รางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๑ อำเภอรามัญ จังหวัดยะลา และรางวัลรองชนะเลิศอับดับ ๒ อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี ผลการประกวดประเภทความคิดสร้างสรรค์ มีดังนี้ รางวัลชนะเลิศ อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา, รางวัลรองชนะเลิศอับดับ ๑ อำเภอควนโดน จังหวัดสตูล และรางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๒ อำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอื่นๆ อาทิ การแสดงอานาซีด สาธิตการกวนอาซูรอกระทะพิเศษ ชมนิทรรศการประเพณีอาซูรอและของดีปัตตานี การออกบูธสาธิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ฮาลาลและสินค้าทางวัฒนธรรมภาคใต้ รวมทั้งกิจกรรมศาสนิกสัมพันธ์ เพื่อให้ผู้นำศาสนาทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคได้มีโอกาสพบปะ พูดคุย แลกเปลี่ยนประสบการณ์การดำเนินงานในมิติศาสนาเพื่อส่งเสริมให้เกิดความรัก ความสามัคคีและการอยู่ร่วมกันของประชาชนในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง บนความหลากหลายทางศาสนาและวัฒนธรรม จังหวัดปัตตานีมีเส้นทางท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ที่น่าสนใจมากมาย จึงขอเชิญชวนประชาชนและนักท่องเที่ยวร่วมสัมผัสเสน่ห์วิถีชุมชนและสืบสานประวัติศาสตร์ท้องถิ่น ผ่านแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ อาทิ วัดช้างไห้ อำเภอโคกโพธิ์ สถานที่ประดิษฐานหลวงปู่ทวดองค์ศักดิ์สิทธิ์ ศูนย์รวมจิตใจของชาวใต้ ศาลเจ้าเล่งจูเกียง หรือศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว แหล่งศรัทธาและตำนานแห่งเมืองปัตตานี ตลอดจนบ้านขุนพิทักษ์รายา บ้านเลข ๕ กือดาจีนอ ที่สะท้อนเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมอันทรงคุณค่า ช่วยเติมเต็มประสบการณ์การท่องเที่ยวอย่างมีความหมายในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างนายชัยพล สุขเอี่ยม อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวทิ้งท้ายว่า “โครงการอาซูรอสัมพันธ์และต้อนรับปีใหม่ฮิจเราะห์ศักราช ๑๔๔๗” ภายใต้ “โครงการเสน่ห์แห่งสีสัน เทศกาลแห่งศรัทธา” เป็นการส่งเสริมให้ศาสนิกชนได้ปฏิบัติศาสนกิจตามศาสนา อันเป็นการสร้างความเข้มแข็งของสถาบันศาสนาให้เป็นเสาหลักที่จะสร้างสรรค์สังคมที่มีคุณธรรม ศาสนิกชนทุกศาสนาอยู่ร่วมกันด้วยความรักสามัคคี ถือเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวและเทศกาลในมิติทางศาสนา เป็นการยกระดับเทศกาลประเพณีให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง สนับสนุนผู้ประกอบการท้องถิ่นด้านเศรษฐกิจวิถีชีวิตและวัฒนธรรมที่หลากหลาย เป็นวิถีชีวิตของชุมชนพหุวัฒนธรรม ทั้งนี้ "อาซูรอ" เป็นเทศกาลประเพณีท้องถิ่นที่สำคัญของชาวไทยมุสลิม โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง ซึ่งกำลังเผชิญความท้าทายที่อาจทำให้เลือนหายไปจากการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวิถีชีวิต เยาวชนรุ่นใหม่อาจไม่เห็นความสำคัญหรือไม่มีโอกาสได้เรียนรู้การทำอาซูรออย่างลึกซึ้ง หากไม่มีการส่งเสริมและสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐหรือภาคเอกชนอย่างต่อเนื่อง ประเพณีนี้อาจค่อยๆ หายไป เพื่อให้เทศกาลแห่งศรัทธาและความสามัคคีนี้คงอยู่ ต้ออาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน และจัดกิจกรรมต่อเนื่อง ที่สำคัญนั้นต้องเปิดโอกาสให้คนทุกกลุ่มวัย โดยเฉพาะเยาวชนในทุกๆ ศาสนาได้เข้ามามีส่วนร่วม ถือเป็นการกระชับความสัมพันธ์ในสังคมพหุวัฒนธรรม และเป็นการร่วมรักษาประเพณีอาซูรอให้คงอยู่ ซึ่งไม่เพียงการคงไว้ซึ่งพิธีกรรม แต่เป็นการรักษาจิตวิญญาณแห่งการรวมใจ แรงศรัทธา และการแบ่งปันที่ถือเป็นรากฐานสำคัญของชุมชนให้คงอยู่ต่อไป
No comments:
Post a Comment