่วธ. จัดสวดมนต์ข้ามปีอย่างยิ่งใหญ่ เชิญชวนประชาชนทั่วโลกร่วมสวดมนต์ ถวายพระราชกุศล เสริมสิริมงคลชีวิต รับศักราชใหม่ 2569 - ASEAN All News

ASEAN All News

ข่าวสารอัพเดท ทันทุกเทรนด์โลก รอบรั้วอาเซียน

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

Wednesday, December 24, 2025

่วธ. จัดสวดมนต์ข้ามปีอย่างยิ่งใหญ่ เชิญชวนประชาชนทั่วโลกร่วมสวดมนต์ ถวายพระราชกุศล เสริมสิริมงคลชีวิต รับศักราชใหม่ 2569

กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน จัดงานสวดมนต์ข้ามปีภายใต้ชื่อ “สวดมนต์ข้ามปี เสริมสิริมงคลทั่วไทย ถวายพระราชกุศล ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับศักราชใหม่ 2569” ระหว่างวันที่ 31 ธ.ค.68 - 1 ม.ค. 69 เพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนา ถวายพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี ตลอดจนพระบรมวงศานุวงศ์ รวมทั้งเพื่อความเป็นสิริมงคล และเกิดความสุขสงบในจิตใจของประชาชน และสร้างแรงจูงใจให้ประชาชน ลด ละ เลิก อบายมุข ในเทศกาลปีใหม่ ส่งเสริมให้ประชาชนได้สวดมนต์ข้ามปีได้ทุกที่ในช่วงเวลาส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ โดยกรมการศาสนา มุ่งหวังให้กิจกรรมดังกล่าวช่วยส่งเสริมให้ประชาชนได้นำหลักธรรมคำสอน มาบ่มเพาะ เสริมสร้างพลังใจให้มีจิตใจที่ผ่องใส ก่อให้เกิดสิริมงคลแก่ตนเอง ครอบครัว สังคม และประเทศชาติ ในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่

นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) กล่าวว่า นับเป็นสิริมงคลอย่างยิ่งที่กระทรวงวัฒนธรรมได้รับพระเมตตาจากสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานไฟพระฤกษ์ให้แก่กระทรวงวัฒนธรรมเพื่อจุดเทียนมงคลในพิธีสวดมนต์ข้ามปี และโปรดประทานตราอักษรพระนาม ออป. จัดพิมพ์ลงบนกล่องไม้ขีดไฟ เพื่อมอบให้สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดทั่วประเทศ นำไปประกอบพิธีจุดเทียนมงคลในกิจกรรมดังกล่าว สร้างขวัญกำลังใจแก่พุทธศาสนิกชนที่เข้าร่วมในพิธี และเป็นสิริมงคลในการเข้าสู่ศักราชใหม่ ในการนี้ กระทรวงวัฒนธรรมโดยกรมการศาสนา ได้จัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนสามารถสวดมนต์ข้ามปีได้ทุกที่ในช่วงเวลาส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ประชาชนได้นำหลักธรรมคำสอน มาบ่มเพาะ เสริมสร้างพลังใจให้มีจิตใจที่ผ่องใส ลด ละ เลิกอบายมุข ก่อให้เกิดสิริมงคลแก่ตนเอง ครอบครัว สังคม และประเทศชาติ โดยส่วนกลางจัดกิจกรรมในวันที่ 31 ธันวาคม 2568 ณ วัดสระเกศ วัดอรุณราชวราราม และวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม กรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ จะมีการถ่ายทอดสัญญาณภาพงานสวดมนต์ข้ามปี เชื่อมโยงการจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคของประเทศไทยและวัดไทยในต่างประเทศ ผ่านทางสถานีวิทยุโทรทัศน์และช่องทางอื่น ๆ อย่างกว้างขวาง

นอกจากนี้ กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา ร่วมกับวัดสระเกศ จัดงาน “ส่งท้ายปีเก่าวิถีไทย 2568 ต้อนรับปีใหม่วิถีพุทธ 2569 สวดมนต์ข้ามปี วัดสระเกศ 2569” ภายใต้แนวคิด “รัตนศรัทธา แสงทอง แห่งปีใหม่” ระหว่างวันที่ 30 ธันวาคม 2568 ถึงวันที่ 4 มกราคม 2569 ณ วัดสระเกศ (ภูเขาทอง) กรุงเทพมหานคร เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนร่วมสืบสานขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามทางพระพุทธศาสนา เสริมสร้างความเป็นสิริมงคลในวาระเปลี่ยนผ่านสู่ศักราชใหม่ ภายในงานได้จัดกิจกรรมทางศาสนาและวัฒนธรรมอย่างหลากหลาย โดยมีขบวนอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ “แสงทอง พลังแห่งศรัทธา” ซึ่งกำหนดจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่และสง่างามในค่ำคืนวันที่ 31 ธันวาคม ก่อนพิธีสวดมนต์ข้ามปี โดยเปิดให้ประชาชนเข้าสักการะพระบรมสารีริกธาตุ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ 9 มหามงคลภายในวัดสระเกศ เพื่อเสริมสร้างความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว การเข้าร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์และพิธีสวดมนต์ข้ามปีในค่ำคืนวันที่ 31 ธันวาคม และการจัดกิจกรรม “Walk Rally สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ 9 มหามงคล” เปิดเส้นทางการเรียนรู้และเส้นทางศรัทธาภายในวัดสระเกศ ให้ประชาชนได้ร่วมเดินสักการะมงคลสถานสำคัญครบทั้ง 9 จุด พร้อมสะสมตราประทับเพื่อรับของที่ระลึกมงคล เป็นการผสมผสานกิจกรรมทางศาสนาเข้ากับการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอย่างสร้างสรรค์ ช่วยให้ผู้เข้าร่วมได้ซึมซับคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ศิลปกรรม และหลักธรรมคำสอนควบคู่กันไป รวมถึงการจัดตลาดวัฒนธรรม 4 ภาค ช้อป ชิม ชิลล์ ที่รวบรวมอาหารพื้นถิ่น ขนมไทย และผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมจากทั่วประเทศ ตลอดจนร้านค้าชื่อดังกว่า 200 ร้าน สร้างบรรยากาศคึกคัก กระตุ้นการใช้จ่าย และสร้างรายได้ให้้แก่ผู้ประกอบการและชุมชนโดยรอบ

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวต่อไปว่า สำหรับการจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีอาเซียน ประจำปี พ.ศ. 2569 ในส่วนของต่างประเทศนั้น ได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย เครือข่ายพระธรรมทูตไทยในต่างประเทศ วัดไทย 10 แห่ง และวัดทางพระพุทธศาสนาในต่างประเทศทุกภูมิภาคทั่วโลกจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี อาทิเช่น จีน ญี่ปุ่น ลาว เวียดนาม เมียนมา สิงคโปร์ ศรีลังกา อินเดีย เนปาล ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส เยอรมนี นอร์เวย์ สวีเดน สหราชอาณาจักร อูกันดา และมองโกเลีย เป็นต้น และร่วมกับสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดที่มีพรมแดนติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคอาเซียน 14 จังหวัด ได้แก่ 1. เชียงราย วัดในพื้นที่อำเภอที่มีอาณาเขตติดต่อกับสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา 2. ตาก วัดไทยสามัคคี ตำบลแม่กาษา อำเภอแม่สอด และพุทธศาสนิกชนจากเมืองเมียวดี สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา 3. นครพนม วัดในพื้นที่จังหวัดนครพนม และพุทธศาสนิกชนจากแขวงคำม่วน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว 4. นราธิวาส วัดชลธาราสิงเห ตำบลเจ๊ะเห อำเภอตากใบ และพุทธศาสนิกชนชาวมาเลเซีย 5. บึงกาฬ วัดบุพพราชสโมสร (วัดกลาง) อำเภอเมืองบึงกาฬ 6. มุกดาหาร วัดเกษมสุข ตำบลมุกดาหาร อำเภอเมืองมุกดาหารและพุทธศาสนิกชนจากแขวงสะหวันนะเขต สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว 7. แม่ฮ่องสอน วัดพระธาตุดอยกองมู อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน และพุทธศาสนิกชนจากสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา 8. ยะลา วัดพุทธาธิวาส อำเภอเบตง และพุทธศาสนิกชนชาวมาเลเซีย 9. ระนอง วัดสุวรรณคีรีวิหาร ตำบลเขานิเวศน์ อำเภอเมืองระนอง วัดวารีบรรพต ตำบลนางนอน อำเภอเมืองระนอง และพุทธศาสนิกชนจากสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา 10. เลย วัดในพื้นที่อำเภอที่ติดต่อกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว 11. สงขลา วัดน้ำกระจาย ตำบลพะวง อำเภอเมืองสงขลา และพุทธศาสนิกชน และนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย 12. สตูล วัดชนาธิปเฉลิม ตำบลพิมาน อำเภอเมืองสตูล และพุทธศาสนิกชนจากประเทศมาเลเซีย 13. หนองคาย วัดโพธิ์ชัย อำเภอเมืองหนองคาย, วัดอรัญวาสี อำเภอท่าบ่อ และวัดเจ้าคณะอำเภอทุกอำเภอ รวม 9 อำเภอ และพุทธศาสนิกชนจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว 14. อุบลราชธานี วัดสิรินธรวราราม (ภูพร้าว) ตำบลช่องเม็ก อำเภอสิรินธร

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวทิ้งท้ายว่า การสวดมนต์ข้ามปีในปีนี้จะเป็นกิจกรรมสำคัญที่ประชาชนจะได้ร่วมก้าวเข้าสู่ศักราชใหม่ด้วยความเป็นสิริมงคล ก่อเกิดอานิสงส์ที่สำคัญ คือ การลดความเสี่ยงจากอบายมุข อุบัติเหตุ และความชั่วร้าย นอกจากนี้ยังเป็นการทำบุญใหญ่ให้กับชีวิต ทั้งทางกาย จิต และปัญญา พุทธศาสนิกชนได้ร่วมส่งท้ายปีเก่าด้วยธรรมะ และต้อนรับปีใหม่ด้วยศีล พร้อมเริ่มต้นชีวิตด้วยสิ่งที่เป็นมงคล 


อันจะส่งผลให้ได้พบสิ่งที่เป็นมงคลตลอดทั้งปี สามารถสอบถามรายละเอียดงานเพิ่มเติมได้ที่ www.dra.go.th โทรศัพท์ 0 2209 3728, 3699 หรือ สายด่วนวัฒนธรรม 1765

No comments:

Post a Comment

Post Bottom Ad


Pages