จากประสบการณ์ส่วนตัว ทำให้เรามีความเข้าใจเกี่ยวกับปัญหาการเข้าถึงผู้บริการด้านความงามในไทยได้เป็นอย่างดี ผู้ให้บริการกลุ่มใหญ่มักกระจุกตัวในตลาดกลุ่มเดียวหรือในแวดวงของตนเอง ซึ่งมีการหางานผ่านคอนเนคชั่นส่วนตัวหรือคนรู้จัก ทั้งๆ ที่อันที่จริง ตลาดบริการด้านความงามส่งตรงถึงบ้านนั้นมีฐานที่ใหญ่กว่านั้นมาก เพียงแต่ยังไม่มีแพตลฟอร์มสื่อกลางที่รวมบริการไว้ด้วยกัน ดังนั้น โปรเจคในการสร้างจุดกึ่งกลางจึงเกิดขึ้น โจทย์แรกที่เราเริ่มดำเนินการคือการโฟกัสไปยังบริการ 6 ประเภทหลัก คือ การตกแต่งผม การตัดผม การแต่งหน้า การทำเล็บ บริการแวกซ์ การนวดเพื่อสุขภาพ และยังบริการย่อยอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ภายใต้ แอปพลิเคชั่นเดียวในชื่อ “Beauty On Demand”
“Beauty On Demand เป็นแอปพลิเคชั่นใหม่ ที่แทบจะเป็น platform เดียวที่สามารถสร้างงานและรายได้เพิ่มกับผู้ให้บริการ โดยที่ไม่ต้องเสียเงินในการสมัครหรือซื้อพื้นที่โฆษณา เพียงแต่ใช้ความเป็นมืออาชีพในการทำงานเท่านั้น ผู้ที่จะเข้ามาเป็นผู้ให้บริการ จะผ่านการคัดกรองจากทางแอปฯ โดยต้องมีเอกสารยืนยันตัวตน พร้อมประกาศนียบัตรรับรองวิชาชีพ และผลงานที่ผ่านมา เพื่อซื้อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ในอีกด้านหนึ่ง ผู้บริโภคก็จะได้การันตีความสะดวกสบาย ด้วยศักยภาพที่เป็น one stop service platform ที่ทุกคนสามารถเลือกทุกบริการได้ในที่เดียว ทั้งยังอยู่ในจุดที่ผู้บริโภคสามารถเลือกผู้ให้บริการ ไฟล์สไตล์ของผู้ให้บริการ และราคาในการให้บริการที่เหมาะกับตัวเองได้ โดยที่ไม่ต้องปรับเปลี่ยนข้าม platform ไปมาอีกด้วย”
นอกเหนือจากบริการ 6 ประเภทหลักแล้ว แอปฯ Beauty On Demand ยังมี ฟังก์ชันเด่นอื่นๆ อาทิ Filters เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถค้นหาการบริการ อิงกับระยะทาง, Points สะสมคะแนนแลกสิทธิพิเศษของแคมเปญต่างๆ, Chat box เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายได้เจรจาหรือให้ข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องของการบริการ เพื่อจะได้ตกลงราคาสุดท้ายที่เป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย ก่อนการยืนยันชำระเงิน
คุณธันย์ชนก กล่าวเสริมถึงด้านกลยุทธ์ ว่า “แน่นอนว่าแอปพลิเคชั่นของเราจะใช้ digital marketing รุกตลาดเป็นหลัก เพียงแต่เราต้องการสื่อสารกับ service provider ให้พวกเขาเห็นถึงข้อดีของการเข้าร่วมเป็นพาร์ตเนอร์กับแอปฯ ซึ่งจะเป็นช่องทางในการหารายได้ใหม่ๆ ของพวกเขา โดยที่ไม่ต้องลงทุนอะไร และผู้ให้บริการสามารถเลือกรับงานได้ตามความพอใจ และการตกลงกันกับลูกค้า ในขณะเดียวกับการมีแคมเปญสมนาคุณต่างๆ ตามมาอีกมากมายตามฤดูกาล เพื่อดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการ
ทั้งนี้ แอปพลิเคชั่น “Beauty On Demand” มีกำหนดเปิดตัว pre-launch ในช่วงกลางเดือนตุลาคม มอบโปรโมชั่นลดค่าบริการสำหรับ “first time user” ตามมาด้วยกำหนด soft-launch ในเดือนพฤศจิกายน และเริ่มแคมเปญ festive season ครั้งแรกขึ้นในช่วงเดือนธันวาคม ตามลำดับ ที่สำคัญแอปพลิเคชั่น “Beauty On Demand” สามารถดาวน์โหลด และใช้บริการได้แล้ววันนี้ ทั้งในระบบปฏิบัติการ IOS และระบบ Android
“บริการความงามและสุขภาพ ที่แต่เดิมเป็นอาชีพที่เราคิดว่าอยู่แต่ในร้าน ไม่จำเป็นต้องปรับตัวอะไร แต่เราได้เห็นแล้วว่า digital disruption ค่อยๆ เข้ามาแทรกซึมการใช้ชีวิตประจำวันของเรา และ disruption นี้ ถูกเร่งเร้าให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ซ้ำเติมเข้าไปอีกจากสถานการณ์ระบาดของโควิด-19 เราจะเห็นผู้คนทั้งโลกในทุกสาขาอาชีพ ต้องปรับตัวกับโลกแบบ new normal นี้อย่างทันที โดยแทบไม่มีเวลาตั้งตัว อุตสาหกรรมความงามและสุขภาพก็เช่นกัน เราแค่คิดว่า มันถึงเวลาแล้วที่เราต้องรีบปรับตัวและนำเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับอาชีพดั้งเดิม เพื่อให้ทุกคนอยู่รอด สามารถหางานได้ และสร้างรายได้เพิ่มสำหรับผู้ให้บริการ ส่วนผู้ใช้บริการ ก็ได้ความสะดวก รวดเร็ว และมีทางเลือก ยิ่งปรับตัวเร็ว ทำให้เราฟื้นตัวได้เร็วและไปได้ไกล แต่เดิมเราอาจมีรายได้จำนวนหนึ่ง การเข้าร่วมเป็นพาร์ตเนอร์กับ Beauty On Demand ก็ทำให้เราขยายฐานลูกค้าและรายได้ของเรา โดยไม่ได้เสียอะไร ในขณะที่ลูกค้าก็มีตัวเลือกมากมายในการหาช่างแต่งหน้าหรือทำผมสักหนึ่งคนมาให้บริการที่บ้าน เพียงแค่เปิดหาคนที่คุณถูกใจในแอปพลิเคชั่นของเรา ” คุณธันย์ชนก จงยศยิ่ง สรุปในตอนท้าย
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของแอปพลิเคชั่น “Beauty On Demand” ได้ที่ https://www.facebook.com/beautyondemand.thailand และผู้ให้บริการที่สนใจเข้าร่วมกับ Beauty On Demand สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ 089 460 6888
No comments:
Post a Comment