อย. ก้าวสู่ทศวรรษที่ 5 มุ่งมั่นยกระดับงานคุ้มครองผู้บริโภค พร้อมเปิดอาคารศูนย์บริการผลิตภัณฑ์สุขภาพเบ็ดเสร็จ ภายใต้แนวคิด อย. อัจฉริยะ พร้อมทุกที่ ทุกเวลา เพื่อทุกคน (Smart FDA : Anywhere Anytime Anyone) เพิ่มศักยภาพการให้บริการด้วยระบบการทำงานแบบดิจิทัล ลดขั้นตอนและระยะเวลาการพิจารณาอนุญาต แต่ยังคงประสิทธิภาพโดยให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของผู้บริโภค พร้อมตั้งทีม FDA Care D+ ช่วยเหลือผู้รับบริการ สร้างความเข้าใจ ลดช่องว่างการสื่อสาร
วันนี้ (8 ธันวาคม 2566) นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานงานวันสถาปนาสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ครบรอบ 49 ปี และพิธีเปิดอาคาร One Stop Service Center (OSSC) ศูนย์บริการผลิตภัณฑ์สุขภาพเบ็ดเสร็จ โดยได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า วันที่ 11 ธันวาคม 2566 นี้เป็นวันคล้ายวันสถาปนาครบรอบ 49 ปี อย. ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักด้านการคุ้มครองผู้บริโภคและส่งเสริมผู้ประกอบการด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพ โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา อย. มุ่งมั่นพัฒนาระบบงานคุ้มครองผู้บริโภคมาอย่างต่อเนื่องและมีคุณภาพ สร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชนในการบริโภคผลิตภัณฑ์สุขภาพ ขณะเดียวกันยังได้ดำเนินมาตรการสนับสนุนภาคธุรกิจในทุกระดับ ทำให้เศรษฐกิจของประเทศเจริญก้าวหน้าอย่างเข้มแข็ง สำหรับการเปิดอาคาร OSSC แห่งใหม่ เป็นการประกาศเปิดตัวบริการมิติใหม่ของงานคุ้มครองผู้บริโภคด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพของภาครัฐอย่างก้าวกระโดด โดย อย. ซึ่งเป็นหน่วยงานหนึ่งของกระทรวงสาธารณสุขจะมีบทบาทที่สำคัญยิ่งในการขับเคลื่อนระบบสุขภาพของประเทศไทยให้มีความมั่นคงและยั่งยืน
ทางด้าน นายแพทย์ณรงค์ อภิกุลวณิช รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวถึงการเปิดอาคาร One Stop Service Center (OSSC) ศูนย์บริการผลิตภัณฑ์สุขภาพเบ็ดเสร็จ ว่า อย. ให้ความสำคัญกับระบบการให้บริการมาโดยตลอด จึงได้มีการพัฒนารูปแบบการให้บริการมาอย่างต่อเนื่องจนปัจจุบันที่เป็น FDA One Platform ประกอบด้วย e-Service e-Submission e-Payment e-Review e-Tracking และ e-License ตั้งแต่การยื่นขออนุญาตจนได้รับการอนุญาต ซึ่งอาคาร OSSC แห่งใหม่นี้ถือกำเนิดขึ้นภายใต้แนวคิด อย. อัจฉริยะ พร้อมทุกที่ ทุกเวลา เพื่อทุกคน (Smart FDA : Anywhere Anytime Anyone) โดยได้เพิ่มศักยภาพและประสิทธิภาพการให้บริการ เพื่อให้ทันต่อความก้าวหน้าตามมาตรฐานสากล นำนวัตกรรม เทคโนโลยี ข้อมูลและระบบการทำงานแบบดิจิทัลมาพัฒนาระบบการให้บริการ เพื่อให้ผู้ใช้บริการได้รับความสะดวก รวดเร็ว ภายใต้ขั้นตอนที่กระชับและสามารถติดต่อดำเนินการได้ ณ จุดเดียวที่อาคาร OSSC และเพื่อให้การบริการดีต่อใจ อย. จัดตั้งทีมประสานใจ FDA Care D+ เพื่อช่วยเหลือผู้รับบริการโดยใช้หลัก “ใจเขาใจเรา” ให้เกิดความเข้าใจ ลดช่องว่างการสื่อสาร เพิ่มความเห็นอกเห็นใจ ซึ่งจะดูแลควบคู่กับการให้บริการในระบบอิเล็กทรอนิกส์
ที่สำคัญ อย. ได้ทบทวนกระบวนการพิจารณาอนุญาตผลิตภัณฑ์สุขภาพกว่า 200 กระบวนงาน โดยได้ลดขั้นตอนและระยะเวลาการให้บริการแก่ผู้ประกอบการ สามารถปรับลดจำนวนวันให้บริการรวมลงได้มากกว่าร้อยละ 50 เช่น การขออนุญาตผลิตหรือนำเข้าเครื่องมือแพทย์ กรณีไม่ส่งผู้เชี่ยวชาญ คณะทำงาน หรืออนุกรรมการ จากเดิม 215 วัน เหลือ 86 วันทำการ เป็นต้น
นายแพทย์ณรงค์ อภิกุลวณิช กล่าวย้ำในตอนท้ายว่า อย. คำนึงถึงความสำคัญด้านความปลอดภัยของผู้บริโภคและพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการเป็นสำคัญ รวมทั้งเสริมสร้างความมั่นคงด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพของประเทศเพื่อความยั่งยืนทางเศรษฐกิจ ดังนั้น ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่าในอนาคต อย. จะยังคงมุ่งมั่นและพัฒนางานเพื่อคุ้มครองความปลอดภัยจากการใช้ผลิตภัณฑ์สุขภาพต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง
No comments:
Post a Comment