บี.กริม องค์กรที่อยู่เคียงคู่สังคมไทย จากรากฐานปรัชญาการดำเนินธุรกิจด้วยความโอบอ้อมอารี ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2421 เติบโตเคียงข้างประเทศไทย เริ่มต้นจากธุรกิจร้านปรุงยา สู่บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านพลังงาน วันนี้สยายปีกสู่ 6 กลุ่มธุรกิจ พร้อมเดินหน้าต่อยอดธุรกิจฐานราก ตั้งเป้าสร้าง “บีกริม ฟาร์มา” สู่ผู้นำธุรกิจในอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพแบบครบวงจร เผยกลยุทธ์ขับเคลื่อนองค์กรใน 5 ปีข้างหน้า ฉลองการเข้าสู่ปีที่ 150 มุ่งเติบโตก้าวกระโดด ขึ้นแท่นองค์กรชั้นนำระดับโลก
ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ ประธาน บี.กริม กล่าวว่า ตลอด 145 ปี บี.กริม มุ่งมั่นในการทำธุรกิจด้วยความโอบอ้อมอารี เพื่อสร้างคุณค่าให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อม จากจุดเริ่มต้นธุรกิจร้านปรุงยาสมัยใหม่ในสมัยรัชกาลที่ 5 สู่บริษัทที่มีหลากหลายธุรกิจในทุกวันนี้ โดยมี “ดีเอ็นเอ” ของความทันสมัยและก้าวไปไม่หยุดนิ่ง ภายใต้ค่านิยมหลัก 4 ประการ (4Ps Core Values) ที่ครอบครัว บี.กริม ยึดถือเป็นวิถีปฏิบัติในการทำงานเสมอมา ซึ่งเสมือนอาวุธที่นำมาประยุกต์เป็นกลยุทธ์เชิงรุก เพื่อปรับเปลี่ยนและรับมือกับสิ่งต่าง ๆ ที่เปลี่ยนแปลง พร้อมนำเสนอสิ่งใหม่มาสู่สังคมไทยที่หลากหลาย และวันนี้ บี.กริมได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ามีส่วนสำคัญในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การริเริ่มขุดคลองชลประทานรังสิตเป็นระยะทาง 1,500 กิโลเมตร, การนำเข้ายาที่ทำให้คนไทยไม่ต้องป่วยตายโดยไม่จำเป็น, การติดตั้งเครื่องโทรเลขไร้สายเป็นครั้งแรก ตลอดจนกิจกรรมด้านอุตสาหกรรมและการดำเนินธุรกิจการค้าอื่น ๆ
ปัจจุบัน บี.กริม มีสายธุรกิจหลัก 6 กลุ่ม ได้แก่ 1. ธุรกิจด้านพลังงาน 2. ธุรกิจอุตสาหกรรม 3. ธุรกิจสุขภาพ 4. ธุรกิจเทคโนโลยีดิจิตอล 5. ธุรกิจไลฟ์สไตล์ เป็นตัวแทนสินค้าแฟชั่นหลายกลุ่ม และ 6. ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยวันนี้ บี.กริม ในวันนี้ก้าวข้ามการแข่งขันในประเทศสู่การเป็นองค์กรชั้นนำระดับโลก โดยมุ่งกลยุทธ์ขับเคลื่อนธุรกิจ และกำหนดทิศทางการลงทุนของบี.กริม ซึ่งจะเน้นไปที่ค่านิยมหลัก 4 ประการ (4Ps Core Values) 1. ความร่วมมือกัน (Partnership) 2. ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ (Pioneering Spirit) 3. การมีทัศนคติที่ดี (Positivity) และ 4. ความเป็นมืออาชีพ (Professionalism)
บี.กริม ตั้งเป้าหมายการเติบโตของแต่ละธุรกิจ โดยเฉพาะใน 3 ธุรกิจหลัก ประกอบด้วย บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) เดินหน้าตามยุทธศาสตร์ระยะยาว “GreenLeap – Global and Green” โดยมีเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนให้มากกว่า 50% ในปี 2573 และตั้งเป้าขยายการลงทุนสู่กำลังการผลิต 10,000 เมกะวัตต์ จากโครงการที่เปิดดำเนินการแล้วและอยู่ระหว่างพัฒนา ในปี 2573 และมีเป้าหมายก้าวสู่องค์กรที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ หรือ Net Zero Carbon Emissions ภายในปี 2593 หรือ คศ. 2050 ปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างและพัฒนาโครงการในประเทศไทย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น เวียดนาม ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย อิตาลี และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยมีกำลังการผลิตติดตั้ง และได้เปิดดำเนินการ (COD) แล้วรวม 3,970 เมกะวัตต์ เมื่อรวมโครงการซึ่งมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าแล้วที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและพัฒนาอีก 12 โครงการ จะมีกำลังการผลิตรวมเป็น 4,623 เมกะวัตต์ โดยความสำเร็จมาจากจุดแข็งในการเป็นผู้นำกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรม และพลังงานหมุนเวียน ตลอดจนการยกระดับความร่วมมือทางธุรกิจระดับโลก
ในปี 2566 บี.กริม เพาเวอร์ มีการขยายโครงการต่างๆ ในต่างประเทศจำนวนมาก โดยมีไฮไลท์คือประเทศเกาหลีใต้ ด้วยการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 2 โครงการ คิดเป็นกำลังการผลิตติดตั้งรวม 122.49 เมกะวัตต์ และอยู่ระหว่างพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมกว่า 1,000 เมะวัตต์ ส่งผลให้ บี.กริม เพาเวอร์ เป็น 1 ใน 5 ประเทศ ได้แก่ ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น สเปน สหรัฐอเมริกา และไทย ที่ได้รับเชิญจากรัฐบาลเกาหลีใต้ เข้าร่วมงาน Investment Korea 2023 พร้อมได้รับรางวัลจากรัฐบาลเกาหลีใต้อีกด้วย นอกจากนี้ บริษัทย่อยและบริษัทร่วมทุนภายใต้ บี.กริม เพาเวอร์ ยังได้รับคัดเลือกเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนให้กับรัฐบาลไทยจำนวน 15 โครงการ รวมกำลังการผลิต 339.3 เมกะวัตต์ ปัจจุบันได้เตรียมพร้อมเข้าร่วมโครงการพลังงานหมุนเวียนในรอบถัดไปแล้ว
ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ด้วยแนวทางในการดำเนินธุรกิจด้วยความโอบอ้อมอารี ตลอด 145 ปี พร้อมกับกลยุทธ์ที่ได้วางไว้ บี.กริม พร้อมเดินหน้าเติบโตสู่องค์กรชั้นนำระดับโลก ก้าวสู่ความสำเร็จและขยายธุรกิจไปในหลายประเทศทั่วโลก ผลักดันให้ต่างประเทศเห็นถึงศักยภาพของคนไทย และช่วยนำพาธุรกิจ และพันธมิตรทุกคนสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
No comments:
Post a Comment