"จิรวัฒน์" เปิดตัว “คาร์บอนเทค" (CARBON Tech) มั่นใจช่วยลดโลกร้อนสร้างโอกาสใหม่คาร์บอน เครดิตให้ประเทศไทย - ASEAN All News

ASEAN All News

ข่าวสารอัพเดท ทันทุกเทรนด์โลก รอบรั้วอาเซียน

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

Tuesday, July 2, 2024

"จิรวัฒน์" เปิดตัว “คาร์บอนเทค" (CARBON Tech) มั่นใจช่วยลดโลกร้อนสร้างโอกาสใหม่คาร์บอน เครดิตให้ประเทศไทย

"อลงกรณ์" ประธานสถาบันเอฟเคไอไอ. ห่วงโลกรวนทำไทยประเทศเสี่ยงท็อปเทน ของโลก เร่งผลักดันนวัตกรรมลดก๊าซเรือนกระจก

"จิรวัฒน์" เปิดตัว “คาร์บอนเทค" (CARBON Tech) มั่นใจช่วยลดโลกร้อนสร้างโอกาสใหม่คาร์บอน เครดิตให้ประเทศไทย

นายอลงกรณ์ พลบุตร ประธานสถาบันเอฟเคไอไอ.ไทยแลนด์ (FKII Thailand) เปิดเผยวันนี้ว่าจากรายงานดัชนีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก (Global Climate Risk) ล่าสุดเปิดเผยว่าประเทศไทยอยู่ในอันดับ 9 ของประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) มากที่สุด ซึ่งกลุ่มคนยากจนได้รับความเสียหายมากกว่าประชากรกลุ่มรายได้อื่นๆ 


“สถาบันเอฟเคไอไอ ไทยแลนด์จึงเร่งผลักดันนวัตกรรมลดก๊าซเรือนกระจกเพื่อลดผลกระทบจากภาวะโลกรวนโลกร้อนทะเลเดือดที่มาเร็วและแรงกว่าที่คาดหมายโดยในปี2566ต่อเนื่องถึง5เดือนแรกของปีนี้มีอุณหภูมิสูงสุดเป็นประวัติการณ์จากปรากฏการณ์เอลนีโญ่ ทำให้ผลผลิตทางการเกษตรลดต่ำลงเกษตรกรมีรายได้น้อยลงและครึ่งหลังของปีนี้อาจเผชิญภาวะน้ำท่วมอย่างรุนแรงในวงกว้างจากปรากฏการณ์ลานีญ่า”

นายจิรวัฒน์ ตั้งกิจงามวงศ์ นายกสมาคมธุรกิจไม้ และหนึ่งในองค์ปาฐกของงานเอฟเคไอไอ.ครั้งที่ 1ได้นำเสนอรายงานพร้อมกับเปิดตัว "คาร์บอนเทค" (CARBON Tech)โดยแสดงความมั่นใจว่าจะช่วยลดโลกร้อนสร้างโอกาสใหม่คาร์บอน เครดิต (Carbon Credit) ให้ประเทศไทย


“ปัจจุบันทั่วโลกต่างเร่งพัฒนานวัตกรรมต่างๆ เพื่อแข่งกับเวลาในการแก้ไขปัญหา "โลกเดือด" รวมทั้งงัดมาตราการบังคับใช้กับภาคธุรกิจที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ให้จ่ายเงินซื้อเครดิต หรือที่เรียกว่าคาร์บอนเครดิตกับโครงการต่างๆ ที่สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงได้ ซึ่งที่ผ่านมาประเทศไทยสามารถส่งออกคาร์บอนเครดิตจากการปลูกต้นไม้ได้เป็นจำนวนมาก แต่ปัจจุบันการปลูกต้นไม้เพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอต่อการแก้ปัญหา "โลกเดือด" และไม่ทันต่อความต้องการคาร์บอนเครดิตจากภาคธุรกิจทั่วโลก จึงได้ทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญทำการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการกักเก็บคาร์บอนจากสาหร่าย (Algae-Based Carbon Sequestration), เทคโนโลยีการเพาะปลูกแบบผสมผสานเชิงนิเวศ (Eco-Interwoven Cultivation), เทคโนโลยีการเพิ่มความเป็นด่างในมหาสมุทร (Ocean Alkalinity Enhancement) และเตรียมขยายผลนวัตกรรมต่างๆเหล่านี้ออกมาเป็นเชิงพาณิชย์ โครงการเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกร้อยละ 30-40 ภายในปี 2030 และเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปี 2050 แต่ยังสร้างโอกาสในการขาย Carbon Credit ที่มีมูลค่าตลาดหลายล้านล้านบาทในอนาคตให้กับประเทศอีกด้วย นวัตกรรมเหล่านี้ไม่เพียงแต่เป็นการตอบสนองต่อความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อม แต่ยังเป็นการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจใหม่ ให้กับประเทศไทย ซึ่งสามารถเป็นผู้นำในการผลิตและส่งออก Carbon Credit ในภูมิภาคและทั่วโลก.”

สำหรับสถาบันเอฟเคไอไอ. ไทยแลนด์(FKII Thailand: Field for Knowledge Integration and Innovation) เป็นองค์กรวิสาหกิจเพื่อสังคม100% (Social Enterprise) ทำหน้าที่ส่งเสริมและเผยแพร่นวัตกรรมและองค์ความรู้รวมทั้งเป็นตัวกลางเชื่อมประสานระหว่างหน่วยงานวิจัยกับภาคเอกชนทั้งในและต่างประเทศเพื่อให้ผู้ประกอบการโดยเฉพาะเอสเอ็มอี. ตลอดจนองค์กรภาคเกษตรและเกษตรกรสามารสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อให้งานวิจัยถูกนำไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์

No comments:

Post a Comment

Post Bottom Ad


Pages